
สำหรับเรื่องเล่าเชิงท่องเที่ยว + ประสบการณ์ชีวิตอันแรกเลยที่จะเขียน ผมว่าจะเล่าให้ฟังถึงชีวิตช่วงสั้นๆที่เคยได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองที่ว่ากันว่าเป็น ‘เมืองหลวงของโลก’ อย่าง New York City กันครับ
(แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ขณะที่เขียนอยู่นี่มีความรู้สึกว่า น่าจะเขียนออกมาได้หลายตอนอยู่)
ก่อนหน้าที่ผมจะได้ไปเรียนต่อนั้น ส่วนตัวก็เคยไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวอยู่บ้าง แต่การไปอเมริกาหนนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เดินทางไปต่างประเทศคนเดียว! แน่นอนว่าในยุคสมัยนี้การเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่จะเรียกได้ว่าแทบจะปกติไปแล้ว แต่ในยุคปี 2006 ที่ยังไม่มี smartphone โทรศัพท์ยุคนั้นใช้แค่โทรออก-รับสายเพียงอย่างเดียวนั้น ขอบอกเลยว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย
การเตรียมการทุกอย่างจะต้องค่อนข้างเป๊ะมาก (เล่าเรื่องเก่าๆในยุค low-tech แล้วก็ต้องบอกว่ามันก็คลาสสิคเหมือนกันนะ) แผนการของผมก็คือ หลังจากลงเครื่อง ผ่านตม.แล้ว ก็ต้องเอาแบงค์ดอลล่าร์ที่แลกมาไปซื้อน้ำเพื่อแตกแบงค์ ก่อนจะเอาเหรียญไปหยอดตู้โทรศัพท์ โทรหารุ่นพี่ที่รู้จักที่อยู่ที่นิวยอร์คว่าผมมาถึงแล้วนะ เตรียมตัวรอรับด้วย ก่อนจะเดินหาทางออก ไปหา Taxi เหลือง หรือ Yellow Cab ที่ดูแล้วไว้ใจได้ ยื่นกระดาษที่อยู่ให้ แล้วออกเดินทางจากสนามบิน JFK มุ่งสู่ตัวเมืองแมนฮัตตัน!
ความยากลำบากในสมัยก่อนคือ เรื่องโทรศัพท์เนี่ยล่ะครับ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นสามารถเอาโทรศัพท์มือถือธรรมดาๆของบ้านเรา (ตอนนั้นผมใช้ Motorolla) เอาไปใช้ที่อเมริกาได้หรือเปล่า ไปถึงแรกสุดจะโทรเปิดใช้ Roaming ชั่วคราวทำยังไง ทุกอย่างเป็นเรื่องยุ่งยากไปหมด เอาเป็นว่าคนที่รู้จักเค้าบอกว่า เฮ้ย ไม่ต้องเอามือถือมา ให้มาซื้อมือถือที่นี่ (เมกา) แทน เพราะถ้าเราสมัครแพ็คเกจรายปี ก็จะได้มือถือฟรีไปเลย ดังนั้นไม่ต้องเอามา!
ไอ้เราตอนนั้นใครว่าอะไรก็เชื่อ ก็นั่นแหละครับ ไปแค่ตัวเปล่า กับแพ็คของกว่า 2 กระเป๋าใหญ่ (ยังไม่นับรวม carry on ขึ้นเครื่อง) ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้า กับหนังสือ สำหรับการอพยพย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ค ดังนั้นการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมือง Taxi จึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่สะดวกที่สุด
ก่อนอื่นจะเกริ่นให้รู้จักภาพรวมของ New York City คร่าวๆกันก่อนนะครับ จริงๆแล้วชื่อ ‘New York’ เฉยๆนั้นเป็นชื่อรัฐรัฐหนึ่งของอเมริกา กินพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ครอบคลุมไปจนถึงเมือง Buffalo ที่มีน้ำตกไนแอการา และอยู่ติดกับแคนาดานั่นเลยทีเดียว ส่วน ‘New York City’ นั่นเป็นแค่เมืองๆหนึ่งในรัฐ New York เท่านั้น แถมไม่ได้เป็นเมืองหลวงของรัฐด้วยนะ เพราะเมืองหลวงของ New York คือเมือง Albany

โดยในตัวเมืองของ New York City นั้นยังแบ่งออกเป็น 5 เขต (Borough) อีก ได้แก่ Manhanttan, Bronx, Queens, Brooklyn, และ Staten Island ทั้งนี้เขตที่มีอาคารสูงๆ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ที่ปรากฏในภาพยนตร์ต่างๆนั้นก็คือเขต แมนฮัตตัน นั่นเอง คนไทยเรามักจะมีภาพจำว่า New York คือส่วนเฉพาะบริเวณของแมนฮัตตัน ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้ว Manhattan เป็นเขตที่อยู่ในเมือง New York City ที่อยู่ในรัฐ New York อีกที
สนามบิน JFK นั้นตั้งอยู่ในเขต Queens (ที่จัดแข่งเทนนิส US Open นั่นแหละครับ) การจะนั่ง Cab หรือ Taxi จากสนามบินไปยังตัวเมือง Manhattan จึงค่อนข้างไกลทีเดียว ถ้าผมจำไม่ผิดค่า taxi น่าจะเป็น flat rate นะ ตอนนั้นน่าจะราวๆ $50 (ไม่แน่ใจ) เรียกได้ว่าแค่นั่งแท็กซี่เข้าเมือง ก็เสียกันเป็นพันเลยทีเดียว
เดี๋ยวตอนหน้ามาพูดถึงเรื่องการหาที่อยู่ในนิวยอร์ค (หรือแมนฮัตตัน ในที่นี้) กับสภาพความเป็นอยู่กันครับ…..
Be the first to comment