จากยักษ์ใหญ่กลายเป็นตัวตลกแห่งวงการฟุตบอลไปแทนซะแล้ว สำหรับอภิมหาโปรเจคท์ Super League ที่เปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายโดนทุกฝ่ายต่อต้าน จนล่มปากอ่าวไปอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชม. ชนิดที่ถ้าพูดในเชิงติดเรท ก็ต้องบอกว่า แค่มองตา ยังไม่ทันได้แตะเนื้อต้องตัว ก็เสร็จแบบนกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำไปซะละ ยังไม่ต้องคิดถึงการเดินเข้าห้องไปทำอะไรเพิ่มเติมต่อเสียด้วยซ้ำ
12 ทีม Founding Members โดยเฉพาะทางด้านฝั่งอังกฤษ โดนทั้งแฟนบอล นักเตะ อดีตกุนซือ อดีตนักเตะ รวมทั้งสื่อออกมาประท้วง จวกกันยับ ชนิด 100% เต็ม จนต้องทยอยกันออกมาแถลงขอโทษขอโพย กลับลำกันแทบไม่ทัน
ทั้งนี้ประเด็นที่สำคัญที่สุดของ Super League ที่คนรับไม่ได้ก็คือ คุณคิดจะรัฐประหารผูกขาดส่วนแบ่งทางการเงินกันเองแต่เพียงฝ่ายเดียว ด้วยการเป็นทีม ‘เด็กเส้น’ หรือ ‘มาเฟีย’ อยู่กินกันยาวใน Super League ไม่ว่าจะเล่นแย่ แพ้มันทุกนัด ก็ยังจะหาเงินมหาศาลได้ โดยไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ลืมตาอ้าปากกันได้เลย ตามระบบที่ควรจะเป็นคือ ผู้ชนะได้รางวัลตอบแทน ผู้พ่ายแพ้ก็รับสภาพกันไป เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ แต่คุณจะมาดูถูกวัฒนธรรม หลักการพื้นฐานของระบบวงการฟุตบอลยุโรปไม่ได้ การออกคอนเซ็ปต์มาแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าแฟนบอลและคนในวงการฟุตบอลยุโรปกลางวันแสกๆ
โลกของแฟนบอลหน้าจอ หรือในมุมมองของนักธุรกิจบางคนอาจจะมีแค่ทีมใหญ่ทีมดัง แค่ไม่กี่สิบทีม แต่อย่าลืมว่าในชีวิตจริง ปิรามิดวงการฟุตบอลของแต่ละประเทศในยุโรปมันมีเป็นพัน เป็นหมื่นทีม ดังนั้นโครงการ Super League ที่ทีมใหญ่เพียงไม่กี่ทีมที่หวังจะฟันกำไรเค้กก้อนใหญ่ แล้วไปแบ่งกินกันเองแบบการันตีระยะยาว โดยไม่คิดถึงส่วนแบ่งที่จะต้องกระจายไปยังทีมเล็กๆทีมอื่น ตามปรัชญาที่ว่า การจะพัฒนาวงการฟุตบอล ต้องไปกันเป็นแบบองคาพยพ ไม่ใช่แค่ทีมนายทุนไม่กี่ทีมผูกขาดอู้ฟู่อยู่แต่เพียงฝ่ายเดียว
เงินที่ยูฟ่าหามาได้ อย่าลืมว่าเค้าต้องแบ่งไปอุดหนุนพัฒนาอย่างอื่นในระบบด้วย กรรมการ ฟุตบอลหญิง ฟุตบอลเยาวชน ฟุตซอล และอื่นๆอีกมากมาย ฟุตบอลไม่ได้มีแค่สโมสรของประเทศยักษ์ใหญ่ ประเทศเล็กๆก็ต้องมีการพัฒนาไปพร้อมๆกัน ยูฟ่าต้องเจียดเงินส่วนนึงไปช่วยในตรงจุดนี้ แม้ทีมใหญ่จะคิดว่าเงินรางวัลที่ได้อาจจะไม่เป็นธรรม แต่คุณก็ต้องอย่าทิ้งองค์ประกอบในมิติอื่นๆไปด้วย จากข่าวล่าสุด ยูฟ่าเองก็พร้อมที่จะเดินหน้าหาสปอนเซอร์เพิ่ม เพื่อที่จะเอาเงินมาเพิ่มในส่วนของเงินรางวัลให้มากขึ้น
ผลกระทบที่จะต้องจับตามองหลังจากการเดินเกมก่อตั้ง Super League แบบสุดซอยครั้งนี้ก็คือ แฟนบอลกำลังจะออกมาเดินเกมตามล่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังกันแล้ว โดยเฉพาะประธานสโมสรที่แฟนบอลเกลียดกันมากันตั้งแต่ดั้งเดิม อย่างโครเอนเก้ของอาร์เซน่อล หรือเกลเซอร์ของแมนฯยูฯ นี่คือโอกาสอันดีที่จะขับไล่ไสส่ง ‘ปลิง’ แห่งวงการฟุตบอลออกไปเสียที
งานนี้ Super League ก็อาจจะมีข้อดีอยู่ก็ได้ ถ้าสามารถกำจัดเหลือบไรทั้งหลายเหล่านี้ออกไปได้จริง
Be the first to comment